ร้อนในที่ลิ้นเกิดจากอะไร? บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพในด้านอื่นหรือไม่?
ปัญหาการเกิดร้อนในจะเป็นการเกิดแผลที่บริเวณเนื้อเยื่อของช่องปาก โดยอาจจะเป็นได้ทั้งที่บริเวณลิ้นและเนื้อเยื่อบุผิวรอบช่องปาก เมื่อเกิดเป็นแผลแล้วจะกลายเป็นการอักเสบและทำให้ผู้ที่ต้องเผชิญแผลร้อนในรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย จุดเริ่มต้นแรกจะเป็นเพียงแค่จุดแดงหรือตุ่มหนอง จากนั้นจะพัฒนาสู่การเป็นแผลที่มีรูปวงกลมหรือวงรีและแผลออกเป็นสีขาว โดยที่ขอบของแผลจะกลายเป็นสีแดงและนูนขึ้นมา ระยะเวลาของการเกิดแผลขนาดเล็กและกลายเป็นแผลอักเสบจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ พบได้มากในกลุ่มของวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว และวัยกลางคน โดยจะพบภายในเพศหญิงมากกว่าเพศชายอีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร้อนในที่ลิ้น
การเกิดปัญหาร้อนในที่ลิ้นจะมีลักษณะแผลเป็นวงกลมหรือวงรีที่จะออกเป็นสีแดง และเมื่อเกิดการอักเสบจะกลายเป็นสีขาวที่คล้ายกับบริเวณส่วนอื่น ๆ ภายในช่องปาก โดยขนาดของแผลสามารถใหญ่ขึ้นได้ถ้าเกิดการอักเสบและติดเชื้อมากขึ้น โดยสาเหตุหลักที่มักจะเกิดกับผู้ที่มีปัญหาร้อนในที่ลิ้น คือ
- การกัดโดนบริเวณลิ้นโดยไม่ตั้งใจจากการรับประทานอาหาร
- สาเหตุการเกิดจากพันธุกรรมที่ญาติในบ้าน มีอาการเกิดแผลร้อนในบริเวณลิ้นบ่อยครั้ง
- การพักผ่อนน้อยหรือไม่ได้พักผ่อนเลย จนทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบได้ง่าย
- การแพ้อาหารและแพ้สารเคมีบางชนิด
- ความเครียดและความวิตกกังวลสูงเกินไป
- ปัจจัยจากการขาดวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารบางประเภท โดยเฉพาะวิตามินบี สังกะสี และธาตุเหล็ก เป็นต้น
- การติดเชื้อไวรัสที่บริเวณช่องปาก
- เกิดการตอบสนองของเชื้อแบคทีเรียใดที่อยู่ภายในบริเวณช่องปาก
- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่เร็วเกินไป
- ในผู้หญิงบางรายอาจจะมีอาการร้อนในก่อนการเป็นประจำเดือน หรือเป็นในช่วงมีประจำเดือน
- ระบบภูมิคุ้มกันต่ำลงอย่างรวดเร็ว
อาการของร้อนในที่ลิ้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหาแผลร้อนในบริเวณลิ้น เชื่อว่าคุณจะสามารถจับสังเกตของอาการก่อนเกิดเป็นแผลอักเสบได้ดี เพราะมักจะมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นอาการบวมแดงที่บริเวณลิ้น หรือรู้สึกเจ็บแสบและคันในบริเวณที่กำลังจะเป็นแผลร้อนใน นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันลดต่ำหรือบกพร่อง อาจจะมีอาการไข้ร่วมกับแผลร้อนในที่บริเวณลิ้น
- ถ้าเป็นผู้ที่มีปัญหาบริเวณต่อมน้ำเหลืองอาจจะทำให้เกิดอาการบวมได้
- มีแผลบวมแดงที่บริเวณลิ้นมากกว่า 1 จุดและอาจจะขึ้นซ้ำในบริเวณเดิมแม้จะยังไม่หายก็ตาม
- ขนาดของแผลจะใหญ่ขึ้นและอาจจะลุกลามไปสู่บริเวณใกล้เคียงได้ง่าย
- ถ้ามีอาการของแผลร้อนในยาวนานต่อเนื่องและไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- สำหรับผู้ที่มีการใส่เหล็กดัดฟันหรืออุปกรณ์ด้านทันตกรรมอื่น ๆ ภายในช่องปาก จะทำให้แผลหายช้าลงและอาจจะเกิดอาการอักเสบได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
การดูแลและรักษา ปัญหาร้อนในบริเวณลิ้น
เมื่อพบว่าคุณมีปัญหาร้อนในที่บริเวณลิ้น เรื่องที่คุณควรรู้ คือ สำหรับคนทั่วไปแล้วการเป็นแผลร้อนในที่ลิ้นจะสามารถหายได้เองในช่วงระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้ามีอาการที่มากกว่านั้นหรือมีขนาดของแผลใหญ่ขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที สำหรับช่วงเวลาในการดูแลช่องปากขณะที่เป็นแผลร้อนใน ควรทำดังต่อไปนี้
- ดูแลเรื่องของสุขภาพช่องปากอยู่เสมอ
- มีการแปรงฟันด้วยขนแปรงที่มีความนุ่มและควรใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแสบมากเกินไป
- การใช้น้ำยาบ้วนปากควรใช้สูตรอ่อนโยนและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง
- รับประทานอาหารที่รสไม่จัดจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้แผลมีอาการรุนแรงมากขึ้น
- ไม่ควรจะรบกวนแผลที่บริเวณลิ้นบ่อยครั้ง เพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้
- เลือกใช้การดื่มน้ำด้วยการใช้หลอดดูด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกระทบกับขอบแก้ว
- ถ้าอาการรุนแรงควรพบแพทย์ เพื่อรับยาประเภทสเตียรอยด์ชนิดทามาใช้ลดอาการเจ็บปวดและลดการอักเสบ
- เลือกใช้เป็นเจลขี้ผึ้งเย็น เพื่อลดอาการเจ็บปวด และทำให้แผลหายเร็วขึ้น
การป้องกันปัญหาแผลร้อนในที่บริเวณลิ้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหารที่สดใหม่และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดเกินไป เพราะอาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ เพื่อทำให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมากขึ้น นอกจากนี้ควรดูแลเรื่องสุขอนามัยของช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเป็นแผลแล้วควรดูแลให้ดี แต่ถ้าอาการมีมากเกินกว่าที่กล่าวมาทั้งหมดและเป็นมากกว่า 3 สัปดาห์ขึ้นไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที